หน้าแรก >Blog >Detail

ขับขี่ปลอดภัยในหน้าฝนกับอัลติเมทฟิล์ม

13 กรกฏาคม 2563
แชร์ :


ขับขี่ปลอดภัยไปกับ ULTIMATE FILMS
    การขับรถในช่วงฤดูฝนมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก เพื่อความปลอดภัยต่อรถของคุณ เราขอแนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมและขั้นตอนในการตรวจสอบรถยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนดังนี้
     1. ยางและระบบเบรก สิ่งสำคัญต้องดูแลให้มั่นใจ
ใครที่รู้ตัวว่ายางรถยนต์ที่เรากำลังขับอยู่ มีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรตรวจเช็คให้แน่ใจว่าเนื้อยางยังไม่เกิดการเสื่อมสภาพ  เพราะหากตัวยางมีความยึดหยุ่นน้อยลง จะส่งผลให้การเกาะถนนลดลงและเกิดการลื่นไถลได้เมื่อมีการเบรกแรงๆ
    นอกจากนี้ควรเช็คว่าดอกยางของเรามีความสูงไม่ต่ำกว่า 2.5 มม. เพราะหากดอกยางไม่สูงเพียงพอ ประสิทธิภาพในการรีดน้ำออกจากตัวยางจะลดลง  ทำให้รถเสียการทรงตัวเมื่อวิ่งผ่านถนนที่มีน้ำเจิ่งนองได้ง่ายขึ้นนั่นเอง  อีกส่วนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือระบบเบรก ให้สังเกตเวลาเบรกรถว่าผ้าเบรกสามารถชะลอความเร็วรถได้เต็มประสิทธิภาพหรือเปล่า หรือมีท้ายรถสะบัดเป๋ไปมาตอนเบรกหรือไม่ หากพบอาการเหล่านี้แนะนำให้นำรถไปตรวจสอบอย่างละเอียด
     2. ใบปัดน้ำฝนและน้ำฉีดกระจกต้องพร้อมเสมอ
เพราะการขับรถในหน้าฝนนั้นทัศนวิสัยคือสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกหนัก หากระบบปัดน้ำฝนไม่ดี
อาจทำให้การขับขี่ลำบากจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ใบปัดน้ำฝนที่ดีนั้น จะต้องปัดน้ำที่ติดกระจกหน้าได้เรียบสนิทไม่เป็นลอนคลื่น
และไม่มีเสียงดังขณะทำงาน นอกจากนี้เราควรตรวจสอบระบบน้ำฉีดกระจกด้วยว่าสามารถฉีดน้ำทำความสะอาดได้อย่างราบรื่นหรือไม่ ซึ่งเราควรเติมน้ำให้เต็มกระปุกฉีดน้ำฝนตลอด
      3. ไฟสัญญาณรอบตัวรถ ส่องสว่างอย่างเหมาะสมหรือยัง
เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุในช่วงหน้าฝน เราควรเช็คไฟสัญญาณต่างๆ รอบคันรถว่าสามารถทำงานได้อย่างครบถ้วนหรือไม่
โดยเฉพาะไฟหน้า และไฟที่จำเป็นอื่นๆ อาทิ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเบรก ไฟตัดหมอกหน้าและหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง
ทุกหลอดล้วนสำคัญต่อการขับขี่เป็นอย่างมาก หากพบว่าไฟดวงใดทำงานไม่สมบูรณ์ แนะนำให้ช่างแก้ไขโดยด่วน
      4.เลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ
การขับรถผ่านแอ่งน้ำขังด้วยความเร็วสูงนั้น อาจทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้ ทางที่ดีหากพบเห็นแอ่งน้ำอยู่ข้างหน้า
ควรชะลอความเร็วลงเสียก่อน ขณะขับผ่านแอ่งน้ำห้ามเหยียบคันเร่งหรือเบรคเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้รถเสียการควบคุม
เมื่อพ้นแอ่งน้ำจึงเหยียบคันเร่งต่อไปได้ ทางที่ดีหากพอหักหลบได้ก็ควรหลบอย่างปลอดภัยดีที่สุด
      5. ขับช้าๆ ใจเย็นและมีสติเสมอในยามที่ฝนตกหนัก 
เมื่อดูแลรถยนต์ได้พร้อมแล้ว ปัจจัยสุดท้ายก็คือการขับขี่อย่างปลอดภัยนั่นเอง โดยในช่วงฝนตกหนักนั้นเราควรปรับระดับความเร็วให้เหมาะสม ไม่ขับจี้ท้ายรถคันหน้าจนเกินไป และไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันเพราะตัวรถอาจลื่นไถลได้ แนะนำให้ลดความเร็วโดยใช้เกียร์ต่ำและค่อยๆ เหยียบเบรกจะดีที่สุด
หากทำได้ตามนี้ถึงสภาพอากาศจะไม่เป็นใจ แต่หากระมัดระวังและไม่ประมาทเราก็สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย พร้อมเดินทางได้ในทุกๆวันแล้วล่ะ!